รู้ระดับเสียงดังกี่เดซิเบลผิดกฎหมาย

เสียงดังกี่เดซิเบลผิดกฎหมาย

เสียงดังมากที่รบกวนเป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียการได้ยิน แต่คุณสามารถป้องกันการได้ยินของคุณได้ ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการทำความเข้าใจว่าเสียงรบกวนทำให้สูญเสียการได้ยินอย่างไร

เสียงดังอาจทำให้สูญเสียการได้ยินอย่างรวดเร็วหรือเมื่อเวลาผ่านไป การสูญเสียการได้ยินอาจเป็นผลมาจากเสียงดังเพียงครั้งเดียว (เช่น เสียงประทัด) ใกล้หูของคุณ หรือบ่อยกว่านั้น

การสูญเสียการได้ยินอาจส่งผลเมื่อเวลาผ่านไปจากความเสียหายที่เกิดจากการเปิดรับเสียงดังซ้ำๆ ยิ่งเสียงดังมากเท่าใด ระยะเวลาที่สูญเสียการได้ยินก็จะยิ่งสั้นลงเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่ได้ใช้อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน

เดซิเบล (Decibel)

เดซิเบลคือหน่วยที่ใช้ในการวัดเสียง และค่าต่ำสุดที่มนุษย์ได้ยินคือ 0 เดซิเบล ระดับ 20 dB ถือว่าดังกว่าระดับเสียงพื้นฐานที่ 0 dB ถึง 100 เท่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ระบุว่าระดับใด ๆ ที่สูงกว่า 85 เดซิเบลเป็นอันตรายต่อการได้ยินของมนุษย์

ระดับความดังแหล่งกำเนิดเสียง
140dBAเสียงเครื่องบินเจท
120dBAรู้สึกไม่สบายในการได้ยิน
110dBAรถจักรยานยนต์
100dBAเสียงที่เกิดจากสว่านลม
90dBAการจราจรรถไฟใต้ดิน
80dBAคนตะโกน
74dBAรถวิ่งผ่าน
60dBAสนทนาอย่างเงียบๆ
50dBAครัวเรือนทั่วไป
40dBAห้องสมุด
30dBAกระซิบ
20dBAใบไม้ทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบ
0dBAเกณฑ์การได้ยิน

กฎหมายเสียงดังกี่เดซิเบล

ในประเทศไทยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับเช่นในที่พักอาศัย ในโรงงานอุตสาหกรรมและเสียงดังจากการจราจร มีข้อกฎหมายที่แตกต่างกันไป ระดับหรือขีดจำกัดของเสียงที่อนุญาตมักถูกกำหนดโดยข้อบังคับของประเทศ

เสียงดังในที่พักอาศัย

1 ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2540) เรื่อง กําหนด มาตรฐานระดับเสียงโดยทั่วไป ออกโดยอาศัยอํานาจตามมาตรา 32(5) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535

ข้อ 2 ให้กําหนดมาตรฐานระดับเสียงโดยทั่วไป ไว้ดังต่อไปนี้

  • ค่าระดับเสียงสูงสุด ไม่เกิน 115 เดซิเบลเอ dB (A)
  • ค่าระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกิน 70 เดซิเบลเอ dB (A)

 

เสียงดังในการทำงาน

กรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดมาตรฐานของระดับเสียงในสถานประกอบการต่าง ๆ ไว้ดังนี้คือ

  • ได้รับเสียงไม่เกินวันละ 7 ชั่วโมง ต้องมีระดับเสียงติดต่อกันไม่เกิน 91 dB(A)
  • ได้รับเสียงวันละ 7-8 ชั่วโมง ต้องมีระดับเสียง ติดต่อกันไม่เกิน 90 dB(A)
  • ได้รับเสียงเกินวันละ 8 ชั่วโมง ต้องมีระดับเสียง ติดต่อกันไม่เกิน 80 dB(A)
  • นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานในที่ ๆ มีระดับเสียงเกิน 140 dB(A) ไม่ได้

 

เสียงดังจากการจราจร

1.พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2531) เรื่องกำหนดรายละเอียดการตรวจสภาพรถยนต์ที่จะจดทะเบียนได้ ว่าต้องผ่านการตรวจระบบการกรองเสียงด้วย

2.พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มีบทบัญญัติที่ว่าด้วยการห้ามมิให้นำรถที่มีเสียงดังซึ่งอาจทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อนรำคาญมาใช้ในทางเดินรถ นอกจากนั้นยังมีการประกาศกำหนดเกณฑ์เสียงที่เกิดจากเครื่องยนต์ของรถยนต์อีกด้วย

ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก กำหนดให้แตรรถยนต์และรถจักรยานยนต์ต้องเมีเสียงดังไกลเกินระยะ 60 เมตร หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 200 บาท และ มาตรา 14 การบีบแตรควรใช้เมื่อจำเป็นหรือใช้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น ไม่ควรบีบยยาว ๆ หรือบีบซ้ำเกินจำเป็นหากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 500 บาท

3.พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มีบทบัญญัติว่าด้วยการกำหนดสภาพ เครื่องอุปกรณ์ และส่วนควบของรถ เช่น มีเครื่องระงับเสียง มีเครื่องยนต์และเสียงแตรที่ไม่ทำให้เกิดเสียงเกินเกณฑ์ที่กรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนด

เครื่องวัดเดซิเบล (Decibel) รุ่นแนะนำ

สามารถวัดระดับเสียงโดยรอบเช่นระดับเสียงรอบโรงงาน โรงเรียน ที่อยู่อาศัย สำนักงาน โรงพยบาลและถนน ฯลฯ

  1. ย่านวัดที่ 30dBA~130dBA
  2. ความถูกต้อง ± 1.5 dB
  3. ความละเอียด 0.1dB
  4. IEC651 Type 2 and ANSI S1.4 Type 2
ดูรายละเอียดเครื่องวัดเสียง