WT130A วัดความหนาแบบอัลตร้าโซนิคแบรนด์ Wintach หน้าจอ LCD 4 หลักง่ายต่อการอ่านค่า
ย่านการวัดความหนา 1.00-300.0mm ด้วยค่าความถูกต้องแม่นยำ ± 0.5% มี 2 หัววัดขนาด 6 mm (สำหรับวัดชิ้นส่วนขนาดเล็ก) และ 10 mm สำหรับวัดชิ้นงานทั่วไป
เครื่องวัดนี้ง่ายต่อการใช้และทนทาน ใช้เทคโนโลยีอัลตราโซนิคทำให้สามารถวัดความหนาของวัสดุเช่นเหล็ก อลูมิเนียม ไทเทเนียม พลาสติก เซรามิก แก้ว อะคริลิคและวัสดุอื่นๆ
เป็นการวัดความหนาของวัตถุหรือชิ้นงานโดยไม่ทำลายชิ้นงานเพราะทำการวัดด้วยคลื่นอัลตราโซนิค ทำให้ได้ค่าที่ถูกต้องแม่นยำ
นิยมใช้ในงานควบคุมคุณภาพระหว่างการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป หรือใช้ตรวจสอบความหนาจากการสึกหรอเพื่อการบำรุงรักษา
Specification WT130A
- Measuring range 1.00~300.0mm
- Data storage 1500
- Operation frequency 2.5MHz และ 5MHz
- 2 Probe (6 mm and 10 mm)
- Measurement error ±(0.5%H+0.05)mm
- Resolution 0.01mm (1.00 to 99.99mm)
- Resolution 0.1mm (100 to 225mm)
- Adjustment range of sound speed 1000~9999m/s
- Temperature range of operation 0~40℃
- Battery 3 Ni-MH rechargeable batteries of 1.2V
- USB charging 5V 1A
- Dimensions 65x146x30mm
- Weight 130g
WT130A มาพร้อม 2 หัววัด 2 หัววัดขนาด 6 mm และ 10 mm
PDF Catalog
คำถามที่พบบ่อย
การวัดแบบอัลตราโซนิกสามารถใช้ในการวัดการกัดกร่อน การเคลือบ และวัสดุหลายประเภท โดยทั่วไปแล้วจะเป็นโลหะเช่นเหล็ก อลูมิเนียม และโลหะต่างๆ พลาสติก คอมโพสิต ไฟเบอร์กลาส หรือแก้ว เซรามิก แต่วัสดุที่ไม่เหมาะสมสำหรับการวัดด้วยเครื่องวัดอัลตราโซนิกทั่วไปได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไม้ คอนกรีต กระดาษ และโฟม
การกัดกร่อนทำให้ความหนาของโครงสร้างของโลหะลดลงเช่น คาน ฐานรองรับสะพาน และเสาเข็มเหล็ก เครื่องวัดความหนาแบบอัลตราโซนิกสามารถใช้เพื่อตรวจสอบโลหะโดยไม่ทำลายเพื่อตรวจหาความเสียหายหรือจุดอ่อนที่อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนต่อโครงสร้างโลหะ
การใช้ผลิตภัณฑ์วิศวกรรมอโลหะ เช่น พลาสติกกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น ทำให้ความจำเป็นในการวัดความหนาของผนังเพื่อการควบคุมคุณภาพเพิ่มขึ้น ปัจจุบันใช้การทดสอบอัลตราโซนิกกับขวดและภาชนะ ท่อพลาสติก ท่อและเรือไฟเบอร์กลาส เพื่อให้แน่ใจว่าได้มาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างแม่นยำและวัสดุที่ผลิตขึ้นนั้นปลอดภัยต่อการใช้งาน
ภายใต้สภาวะที่เหมาะสม เกจอัลตราโซนิกเชิงพาณิชย์สามารถบรรลุระดับความแม่นยำสูงสุด ±0.5 – ±1% ในวัสดุวิศวกรรมทั่วไปส่วนใหญ่ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความแม่นยำได้แก่ ความสม่ำเสมอของความเร็วเสียงในวัสดุที่ใช้ทดสอบ ระดับการกระเจิงหรือการดูดคลื่น สภาพพื้นผิว การดูแลรักษาเครื่องมือและการสอบเทียบ
การใช้งานที่สำคัญสำหรับเครื่องวัดอัลตราโซนิกคือการวัดความหนาของผนังโลหะ ท่อและถังที่สึกกร่อน การวัดสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องเข้าถึงด้านในของท่อหรือถัง
ตัวอย่างการใช้งานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่การวัดความหนาของขวดพลาสติกขึ้นรูปและภาชนะที่คล้ายคลึงกัน ใบพัดกังหัน และชิ้นส่วนกลึงหรือหล่อที่มีความแม่นยำอื่นๆ ท่อทางการแพทย์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็ก ยางและสายพานลำเลียง เรือ และแม้แต่คอนแทคเลนส์